เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (alcoholic beverage) เป็นไวน์ (wine) ชนิดหนึ่ง ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ผลิตคือ องุ่นดำ ซึ่งมีรงควัตถุของเปลือกองุ่น เป็นสารประเภทแอนโทไซยานิน (anthocyanin) ทำให้ไวน์มีสีแดง
กรรมวิธีการผลิตไวน์แดง
การผลิตไวน์แดงนำองุ่นที่บดแล้วมาหมัก (fermentation) ทั้งเปลือก ที่อุณหภูมิที่ 24-29 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4 - 6 วัน จนกระทั่งบริกซ์ (birx) ลดลงเป็น 2-4 การนำองุ่นมาหมักทั้งเปลือกจะเป็นการสกัดสี กลิ่น รส และแทนนินออกจากเปลือกองุ่น หลังจากหมักเสร็จแล้ว จะแยกเปลือกองุ่นออกจากไวน์
กลิ่นรสของไวน์แดง
ไวน์แดงคุณภาพสูงต้องมีความสมดุลระหว่าง ความเป็นกรด ความฝาด ปริมาณแอลกอฮอล์ และกลินรสของผลไม้
ตัวอย่างของไวน์แดง
เช่น Charet, Burgundy, Chianti เป็นต้น
รู้จักพันธุ์ขององุ่นที่นำมาทำไวน์
พันธุ์ขององุ่นที่นำมาทำไวน์นั้นมีเยอะแยะมากมาย จำไม่หวาดไม่ไหว แต่พันธุ์หลักๆขององุ่นที่นิยมนำมาทำไวน์ที่เราเจอกันบ่อยๆและควรจะจดจำไว้เวลาไปเลือกซื้อก็มีตัวอย่างเช่น
องุ่นสำหรับทำไวน์แดงCabernet Sauvignon เป็นองุ่นที่ทำให้ไวน์แดงมีรสชาติที่เต็มและแน่น จึงเหมาะกับอาหารที่หนักหน่อย เช่น สเต๊กหมู, สเต๊กเนื้อ ฯลฯ เป็นเป็นไวน์แดงพิมพ์นิยมที่ถ้าหากใครอยากได้ไวน์แดงเข้ม ๆ ให้มองหาไวน์ที่ทำจากองุ่นชนิดนี้ได้เลย ไม่มีผิดหวังครับ
Pinot Noir สำหรับทำไวน์แดง ลักษณะของไวน์จะคล้ายกันกับ Cabernet Sauvignon แต่รสชาติจะอ่อนกว่าเล็กน้อย
เป็นองุ่นสำหรับทำไวน์แดงที่ให้รสสัมผัสที่เข้มข้น มีชื่อเสียงมากในฝรั่งเศสและออสเตรเลีย
– Merlot (อ่านว่า แมร์-โล) องุ่นสำหรับทำไวน์แดงที่ให้รสชาตินุ่ม ๆ ดื่มง่าย สบาย ๆ ไวน์ทำจาก Merlot จึงขายดีด้วยความที่มันดื่มง่าย ไม่เรื่องมากนี่เอง
________________________________________
องุ่นสำหรับทำไวน์ขาว– Chardonnay องุ่นสำหรับทำไวน์ขาวที่ให้รสหอม และมัน เหมาะอย่างยิ่งกับอาหารประเภทครีม เช่น พาสต้าซอสครีมต่างๆ
– Sauvignon Blanc ให้ไวน์ขาวที่รสชาติกลมกล่อม เหมาะกับการจิบเบาๆในเวลาว่าง หรือจะดื่มคู่กับอาหารที่ทำจากเนื้อปลาก็ได้
– Riesling องุ่นที่ทำให้ไวน์มีรสหวาน ถ้าชอบไวน์แบบนี้แนะนำให้มองหาไวน์ที่มาจากประเทศเยอรมนี